
สวัสดีค่ะ เราเป็นคนที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวมากๆ โดยเฉพาะการดำน้ำลึก (scuba diving)
โดยปกติแล้ว ช่วงสงกรานต์ของทุกๆปี บริษัทเราจะมีวันหยุดพิเศษมอบให้กับพนักงานทุกคน เรียกว่า Golden week ค่ะ ในปีนี้ (2019) เราเลือกที่จะวางแผนไปดำน้ำที่ราชาอัมพัต ซึ่งถือเป็นทริปในฝันของเราก็ว่าได้ และไหนๆก็ได้เดินทางมาที่นี่แล้ว เราก็อยากที่จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทั้งการเที่ยวแบบ Homestay และ Liveaboard ไปพร้อมๆกันเลย มาดูกันค่ะว่า แพลนเดินทาง และค่าใช้จ่ายทั้งหมดมันประมาณเท่าไหร่กัน
1. Trip schedule

29 Mar 2019 : เดินทาง Bangkok to Singapore by Singapore airline(SQ-983)
30 Mar 2019 : เที่ยวในสิงคโปร์
31 Mar 2019 : เที่ยวในสิงคโปร์ และเดินทางต่อไปยัง Jakarta by Garuda airline(GA-839)
1 Apr 2019 : เดินทาง Jakarta to Sorong by Garuda airline(GA-682)
1 Apr 2019 : เดินทาง Sorong to Waisai Island by Ferry
1 Apr 2019 : เดินทาง Waisai to Nus Homestay(Kri Island) by Luxury หางยาว 😉
1–7 Apr 2019 : พัก Homestay และ ดำน้ำ กับ Soul dive center
8 Apr 2019 : Check out และเดินทางกลับเข้าเมือง Sorong
9–15 Apr 2019 : Liveaboard กับเรือ Jaya
16 Apr 2019 : เดินทาง Sorong to Jakarta by Batik airline(ID7780)
16 Apr 2019 : เดินทาง Jakarta to Bangkok by Thai airways(TG436)
2. สรุปค่าใช้จ่าย
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดคือ 130,000 บาท แบ่งเป็น 3 หมวดหลักๆนะคะ ไม่รวมซื้อของ และราคาอาจจะไม่เป๊ะ ขอคิดเป็นเงินบาทตีกลมๆ ได้ตามนี้
- ค่าตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ ทั้งหมด 30,000 บาท ราคานี้ไป-กลับยุโรปได้สบาย ฮ่าๆ
- Singapore airline
- Garuda airline
- Batik airline
- Thai airways
*** สำหรับค่าตั๋วเครื่องบิน เราอยากเดินทางสบายๆ หน่อย ไม่ต้องซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม ก็เลยเลือกบินส่วนมากเป็น Full service ค่ะ ใครที่อยากประหยัดก็สามารถเลือกเป็น low cost ได้ (15,000 บาท) ก็จะประหยัดลงมาอีกประมาณ 15,000 บาทค่ะ
2. ค่า Homestay + Transfer fee + ดำน้ำ ทั้งหมด 30,000 บาท
- Homestay 8 Days 7 Nights + transfer fee
- Scuba diving 12 dives
- เตรียมอาหารไทยไปเองบางส่วน เพราะกลัวจะกินอาหารอินโดไม่อร่อย แต่สรุปคืออาหารที่เค้าเตรียมไว้ให้ก็กินของเค้าไม่เหลือ และที่เตรียมไปเองก็หมดด้วย บ้าจริง!!! ฮ่าๆๆ
3. ค่า Liveaboard + ค่าอุทยาน + ค่าโรงแรม + ค่าประกัน + ค่าทิป ทั้งหมด 70,000 บาท
ค่าทิป dive lead เราให้ไป 6000 บาทค่ะ
Scuba diving 19 dives
3. Nus Homestay
เราใช้เวลาในการเลือก homestay อยู่นานมากกกกกกก เลือกจากเว็บ https://www.stayrajaampat.com โดยเรามีเงื่อนไขตามนี้
- เดินทางไม่ลำบาก และ Homestay ต้องมีเรือเป็นของตัวเอง เพราะเผื่อฉุกเฉิน กลางคืนไม่สบายขึ้นมาเราจะมีเรือเพื่อเดินทางได้
- แถวที่พักจะต้องไม่ติดกับป่าโกงกาง เพราะอีนี่จะได้ไม่ต้องระแวงพี่เข้ ในยามวิกาลค่ะ ฮ่าๆ
- ปลอดภัย
- มีที่พักแบบ Over water และมี beach
- Location ที่พักสวย และใกล้กับจุดดำน้ำ
- ราคาไม่แพง
- สื่อสารภาษาอังกฤษได้
- มี dive center เป็นของตัวเอง หรือมีอยู่บริเวณใกล้ๆที่พักเพื่อเป็นการประหยัด
- มีน้ำให้ใช้ได้ตลอด เผื่อข้าศึกบุกกลางคืน 55555
สุดท้ายก็มาลงตัวที่ Nus Homestay ค่ะ https://www.stayrajaampat.com/accommodation/nus-raja-ampat-bungalows/ อ่านว่านุส นะคะ ไม่ใช่นัส ^___^ ทุกข้อมีหมดสำหรับที่นี่ ยกเว้นข้อ 7 ที่มีแต่เจ้าของที่คุยภาษาอังกฤษได้ดี นอกนั้น staff คนอื่นๆ คือพูดไม่ได้เลย ฮ่าๆ แต่ไม่เป็นไรค่ะ เราใช้ภาษากาย ภาษามือแทน และทุกคน nice กับเรามากๆเลย ประทับใจ 😉
ราคาคืนละ IDR 450,000 / person รวมอาหาร 3 มื้อ คิดเป็นเงินไทยก็คืนละ 1,000 บาท คุ้มมากๆ
บริเวณนี้มี 3 Homestay นะคะ คือ
- Mangkur Kodon
- Yenbuba
- Nus
สวยทั้งสามที่เลย แต่เราชอบ Nus ที่สุดเพราะมันมี beach และ ระเบียงห้องเห็นวิวสวยทั้งวัน
ตอนที่จองเสร็จ ระบบจะส่ง e-mail มาคอนเฟิร์มการจอง จากนั้นเราก็ต้องรอค่ะว่า homestay จะตอบรับเราหรือไม่ ไม่เกิน 2 วันก็รู้ผลหล่ะ
ตอนแรกเค้าปฏิเสธ เนื่องจากเดิมเราตั้งใจจะอยู่แค่สองคืนแล้วย้ายเกาะ ไปเรื่อยๆ ก็เลยตัดสินใจใหม่เพราะสัมภาระเยอะ ไม่ย้ายหล่ะ เลยส่งไปใหม่ อยู่ 1 วีค ก็เลยได้
จากนั้นก็มีการแลก whatapp กันค่ะ เพื่อนัดแนะเวลามารับที่ท่าเรือ waisai กัน
*** ยิ่งเราย้ายที่พักบ่อย เราก็จะเสียค่าเรือที่ไปส่งหลายบาท ส่วนมากคนที่นั่นเค้าคิด IDR500,000 ต่อครั้ง คิดเป็นเงินไทยก็พันกว่าบาทเลยทีเดียว แพง



4. มาถึงสนามบิน Sorong แล้ว ทำไงต่อ
เนื่องจากเราผ่าน ตม. แล้วที่จาการ์ต้า เมื่อมาถึง Sorong เราก็แค่รับกระเป๋าแล้วเดินออกจากสนามบินได้เลยค่ะ ส่วนมากไฟล์ทเช้าจะถึงเกือบๆ 7 โมงเช้า
ให้ออกมาเรียก Taxi ได้เลย บอกเค้าว่าไปท่าเรือที่จะไป Waisai ค่ะ ค่ารถประมาณ IDR100,000 ไม่เกิน 15 นาทีก็ถึงท่าเรือแล้วค่ะ
จากนั้นเราก็ต้องไปซื้อตั๋วเรือ เค้าจะมีสองราคานะคะ
- ตั๋วธรรมดา IDR100,000
- ตั๋ว VIP IDR250,000 ซึ่งนั่งสบายกว่า มีทีวีจอใหญ่ให้ดูระหว่างทาง
…
รอบเช้าเรือออก 9.00 น. นอนไปเลยค่ะ อีก 2 ชั่วโมง ถึง Waisai
…
พอถึงปุ๊บ เราก็งงๆ นะคะ ว่าไปไหนต่อ ฮ่าๆ ก็จะมีเจ้าหน้าที่มาบอกว่าคุณต้องเดินไปอีกที่นึง เพื่อไปจ่ายค่าอุทยาน ซึ่งที่นี่เค้าคิดเหมา IDR1,000,000 ต่อปี
ซึ่งจริงๆ แล้วจุดที่เราไปจ่ายค่าอุทยาน มันก็คือท่าเรือที่คนจาก Homestay เรามารับนั่นเอง Josua ที่เป็นเจ้าของบอกเราทาง whatapp มาว่าส่งคุณลุงเค้ามารับเรานะ
…
เย้ และแล้วเราก็ได้เจอลุงและเรือหางยาวของเขา ฮ่าๆ หลังจากขึ้นเรือ จนเรือแถ๊ด แถ๊ด แถ๊ด ออกจากท่า นับไปเลย ไม่เกิน 50 นาทีก็จะถึง Homestay 😉


พอมาถึงที่หมาย เราตื่นเต้นมาก เพราะที่พักเราสวยมากกกก น้ำใส บ้านตั้งอยู่บนน้ำที่เราสามารถกระโดดลงไปเล่นได้ตลอด
…
หลังจากนั้นก็เริ่มจัดของในห้อง แล้วก็ออกมาหา dive center เพื่อดำน้ำในวันรุ่งขึ้น
5. Soul dive center
จริงๆแล้ว ติดกับที่พักเลยจะมี dive center ที่ชื่อว่า “Mangkur Kodon” แต่ช่วงที่เราไปพัก เค้าปิด เจ้าของเดินทางไปต่างประเทศ เราก็เลยไปใช้บริการของ Soul dive center ที่อยู่ถัดไปอีกนิดนึง เจ้าของชื่อว่า Tibo เป็นฝรั่งหนุ่มสุดหล่อ หุ่นดี คุยสนุก 😉


6. เราไปดำน้ำที่ไหนกันบ้าง
1.Batu lima : หรือเรียกว่า 5 Rocks สวยยย ดำน้ำตื้นก็สวยแล้ว ที่นี่มีประการังอ่อน มีฝูงปลา มีถ้ำเล็กๆ แล้วก็เจอ wobbegong นอนอยู่ 2 ตัว ตรงหิน โดยมี glassfish จำนวนมหาศาล บังอยู่
Max depth : 25 m. and dive time : 68 mins
2. The passage : เป็น dive site ที่เป็นช่องแคบระหว่างเกาะ Gam and Waigeo ทำให้จุดนี้กระแสน้ำจะแรง โดยพวกเราวางแผนกันว่าจะดำน้ำเล่นกันตรงบริเวณถ้ำกันก่อน แล้วค่อย drift dive ไปจนถึงปลายทาง
Max depth : 13.5 m. and dive time : 90 mins
- ** ที่นี่สวยงามมาก เพราะมันมีทั้งถ้ำ มีซอกเล็กซอกน้อย ให้เรามุดไปดูของสวยๆ เป็น divesite ที่เราชอบมากๆ เลย
- *** แถวๆ บริเวณนี้ บางคนจะมีเจอจระเข้ด้วย แต่โชคดีที่พวกเราไม่เจอ ฮ่าๆ ถ้าเจอคงไม่น่ารอดหล่ะ
3. Nudi rock : ตามชื่อเลยค่ะ เรามีคุ้ยๆ หา nudi กัน แต่ส่วนมาก nudi ที่นี่เรามักจะเจอมาหมดแล้วจากที่สิปาดัน ก็เลยไม่ได้ตื่นเต้นมาก
Max depth : 10.2 m. and dive time : 101 mins
4. Sawandarek jetty : เป็น Jetty ที่ออกไปไม่ไกลจาก homestay เรา นั่งเรือไม่ถึง 20 นาที ที่นี่เราเจอฝูง Sweetlip ค่ะ สีมันสวย เหลืองสดใสมากๆเลย น่ารักกกกก
Max depth : 25.3 m. and dive time : 61 mins
5. Cape mansuar : เรียกว่าเป็น dive site หน้าบ้านก็ว่าได้ มันใกล้มากๆๆๆ นั่งเรือออกมาไม่ถึง 5 นาทีก็โดดลงน้ำได้หล่ะ 😉 ที่นี่ฝูงปลาเยอะมากๆ มีฝูง Bat fish ที่เราชอบด้วย
Max depth : 25.9 m. and dive time : 74 mins
6. Yenbuba jetty : อันนี้ก็หน้าบ้าน คือจริงๆมันก็อยุ่ติดๆกับ Cape mansuar นี่แหละ ตรงใต้ jetty สวยมากๆค่ะ ใครดำน้ำตื้นก็เห็นได้ชัดว่าปะการังเค้าเยอะ ปลาก็เยอะ ดีงามสุดๆ
Max depth : 15.1 m. and dive time : 82 mins
7. Blue magic : ที่นี่เราตั้งใจมาเจอ Manta ค่ะ ซึ่งระหว่างนั่งเรือมาที่นี่ เราก็ได้เจอแมนต้า กระโดดบนผิวน้ำเล่นถึงสามรอบ มันตื่นเต้นมากสำหรับคนที่เพิ่งเคยเจอมันกระโดดบนผิวน้ำ 😉 พอได้เวลาเราก็ลงน้ำไป สิบกว่านาทีแล้วเราก็ไม่เจอแมนต้า ฮ่าๆ แต่เราก็ยังเพลิดเพลินไปกับฝูงปลา จนกระทั่งจู่ๆ ฝูงปลาแตก แล้วเบื้องหลังของมันก็คือฝูงแมนต้าาาาาาาา 6 ตัว ตัวใหญ่มากๆๆๆๆเลย dive lead มาบอกตอนขึ้นน้ำแล้วว่ามันคือ Oceanic Manta ray
Max depth : 27.9 m. and dive time : 66 mins
8. Lao lao : ที่นี่ฝูงปลาเยอะมากกกกกก สวยดีค่ะ
Max depth : 22.9 m. and dive time : 57 mins
9. Cape kri : dive site นี้ น้ำโคตรแรง แรงจน Hook ก็เอาไม่อยู่ ฮ่าๆ ปลิววววววว
Max depth : 36.5 m. and dive time : 39 mins
10. Ransiwar : นี่ก็ dive site หน้าบ้านอีกแห่ง ใกล้สุดหล่ะ สามารถแบกแทงค์กระโดดจากระเบียงห้องออกไปได้เลย ง่ายดี 😉
Max depth : 25.1 m. and dive time : 80 mins
11. Malisa’s garden : วันนี้เราแพลนมาที่ Pianemo ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของที่นี่หล่ะ ก็เลยมา dive site นี้กัน แต่วันนี้ไม่รู้เป็นไร รู้สึกเหนื่อยแล้วก็ดันมาเจอกระแสที่ dive นี้ รู้สึกเหนื่อยและหมดแรงจะถ่ายรูปกันเลยทีเดียว ทั้งที่กระแสแรงไม่เท่า Cape Kri
Max depth : 20.5 m. and dive time : 61 mins
12. Slope : เนื่องจากเจอกระแสมาจาก Malisa’s garden หล่ะ dive นี้เลยชิลด์ๆ เลือกแบบไม่มีกระแส ดำน้ำไปเรื่อยๆ ชิลด์ดี
Max depth : 25.3 m. and dive time : 65 mins


7. Liveaboard
เอาหล่ะ ผ่านมาได้ครึ่งทางแล้ว เรามาต่อด้วยทริป liveaboard เรือ Jaya กันดีกว่า เรือนี้ราคาไม่แพงมากค่ะถ้าเทียบกับเรืออื่นๆ จริงๆแล้ว ตอนมาถึงวันที่ 1 ระหว่างที่นั่งเรือ Ferry ข้ามฟากไป Waisai เรานั่งข้างฝรั่งคนนึง เค้าชื่อ Andrey หล่อมากกกกกกกกก เค้าเห็นเราถือพาสปอร์ตไทยก็เลยชวนคุย
เค้าบอกว่าเคยเป็น instructor อยู่ที่เกาะเต่าและเกาะลันตา พูดไทยได้นิดดดดดนึง แต่ตอนนี้ย้ายไปอยู่เรือ Jaya ที่ Komodo มันช่างบังเอิญดีจริงๆ พอเค้ารู้ว่าเราก็มาเรือนี้ ก็เลยบอกว่าดีนะ staff ก็โอเค แม้เรือจะไม่ใหญ่มาก แต่ความสะดวกสบายก็เพียงพอนะ 😉
พอๆๆๆๆ กลับมาเรือ liveaboard ต่อ 😉
เราเจออะไรกันบ้าง


